แจงวุ่น! ชาวบ้านค้านตัดต้นไมสวนวรารมย์ ผุดสนง.ป่าไม้อุบลฯ

กรณีภาคประชาชนคัดค้านการตัดต้นไม้ใหญ่ในพื้นกรณีภาคประชาชนคัดค้านการตัดต้นไม้ในนสวนรุกชาติอุบลวนารมย์ จ.อุบล ราชธานี ของกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เพื่อก่อสร้างอาคารสำนักงานทรัพยากรป่าไม้ที่ 7 อุบลราชธานี

วันนี้ (29 เม.ย.2567) สภาพป่าไม้ในสวนรุกชาติอุบลวนารมย์ พื้นที่กว่า 5 ไร่ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.อุบลราชธานี ถูกกั้นพื้นที่สำหรับสร้างอาคารสำนักงานทรัพยากรป่าไม้ที่ 7 อุบลราชธานี

รูปแบบเป็นอาคาร 2 ชั้น กว้าง 8 เมตร ยาว 40 เมตร มูลค่า 12 ล้านบาท โดยรอบ มีไม้ขนาดเล็ก และใหญ่ขึ้นปกคลุมในพื้นที่ ทำให้เกิดเสียงคัดค้านจากภาคประชาชนใน จ.อุบลราชธานี ไม่เห็นด้วยหากจะตัดต้นไม้เพื่อก่อสร้างอาคารสำนักงาน

นายวัฒนะ สารรัตน์ ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 7 สาขาอุบลราชธานี ระบุว่า พื้นที่ซึ่งจะถูกสร้างเป็นอาคารสำนักงาน อยู่ในพื้นที่ว่าง ไม่มีต้นไม้ใหญ่ขึ้นหนาแน่น ซึ่งพื้นที่ที่จะใช้จะต้องวัดค่าความโตของต้นไม้ตั้งแต่ 50 ซม.สูงจากพื้นดิน 1.30 ซม. เพื่อขึ้นบัญชีไม้ที่ได้ขนาด และอยู่ในพื้นที่ใช้สร้างสำนักงาน

เบื้องต้น มีต้นไม้ในแนวเขตที่จะก่อสร้าง ซึ่งเป็นต้นไม้ใหญ่ 2 ต้น คือต้นยมหอม และต้นบันแถ และต้นเล็กอีกกว่า 80 ต้น ซึ่งจะใช้วิธี “เคลื่อนย้าย” ไปปลูกไว้ในที่ว่างจุดอื่นในสวนรุกขชาติและไม่มีการตัดต้นไม้

ยันไม่ตัดไม้ใหญ่ทิ้ง-เคลื่อนย้ายปลูก 80 ต้น

พร้อมระบุว่า ยินดีรับฟังความคิดเห็นของประชาชน หลังจากนี้จะเปิดรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับการก่อสร้างอาคารสำนักงานและชี้แจงข้อเท็จจริง เพื่อนำความเห็นของประชาชนไปพิจารณาว่าควรสร้างสำนักงานในพื้นที่สวนรุกขชาติอุบลวนารมย์หรือไม่

ขณะที่ชาวบ้านบางคน ระบุว่าสวนรุกชาติ เป็นสถานที่พักผ่อนของชาวอุบลฯ มีต้นไม้ร่มรื่นหากตัดต้นไม้เพื่อก่อสร้างอาคารสำนักงานก็ไม่เห็นด้วย

สำหรับสวนรุกขชาติอุบลวนารมย์ เป็นป่าดิบแล้งใช้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์และแหล่งรวมของพรรณไม้ท้องถิ่นกว่า 200 ชนิด พื้นที่กว่า 50 ไร่ และถือเป็นแหล่งเผยแพร่ความรู้ด้านพฤกษศาสตร์ป่าไม้ และการอนุรักษ์ทรัพยากร ธรรมชาติของ จ.อุบลราชธานี

โดยวันนี้ นายปัญญา ติดมา ผอ.ส่วนจัดการสวนพฤกศาสตร์ และสวนรุกชาติ ได้เข้ามาตรวจเยี่ยมติดตาม การดำเนินงาน และข้อเท็จจริง ว่าไม่มีโครงการสร้างสิ่งก่อสร้างแต่ประการใดๆ ตามที่เป็นข่าวในสื่อโซเชียล และยังคงทำหน้าที่ให้บริการประชาชน เป็นห้องเรียนธรรมชาติ พื้นที่ศึกษาวิจัย และพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจ อย่างต่อเนื่อง